Paradee
รีสอร์กหรูระดับห้าดาว ที่จะทำให้คุณรู้ว่าสวรรค์บนดินมีอยู่จริงหน้าร้อนเมืองไทยปีนึ้อากาศร้อน อบอ้าวชวนหงุดหงิด ส่งผลให้หลังกายและหลังใจ (ที่เหลืออยู่น้อยนิด) พลอยระเหยไปหมด
เมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์มาถึงจึงเป็นโอกาสอ้นเหมาะเหม็งที่เราจะขอแพ็ค กระเป๋าไปเที่ยวเกาะ ว่ายนํ้าทะเลให้สะใจ เป็นการเติมแรงกายและแรงใจให้กลับมาเต็มถังอีกตรง คิดได้แล้วก็ไม่รอช้ารีบชักชวนเพื่อนพร้อมขอเลือกจุดหมายปลายหางเป็นเกาะเสม็ด เสร็จสรรพแบบมัดมือชก เพราะเขาว่ากันว่า"ไปเสม็ดเสร็จทุกราย"เลยอยากลอง ไปดูสักที่ว่าจะ"เสร็จ"จริงไหม
เดินทางสู่เสม็ด
ทริปนี้มีเพื่อนร่วมเดินทาง 8คน เราจึงเลือก เดินทางด้วยรถตู้โดยมีพี่ต่อคนคุ้นเคยทำหน้าที่ เป็นสารถีพาพวกเราทั้งหมดมุ่งหน้าสู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง พวกเรานั่งชมวิว คุยกันไปคุยกันมา แวะรับประทานอาหาร เบ็ดเสร็จแล้วใช้เวลาไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็มาถึงจุดที่จะข้ามไปเกาะเสม็ดซึ่งก่อนที่เราจะมาก็ได้ติดต่อจองห้องพักที่ "พาราดี"รีสอร์ทหรูระดับห้าดาวเอาไว้แล้ว เมื่อจอดรถก็มี พนักงานของทางรีสอร์ทมาอำนวยความสะดวก ขนสัมภาระลงสปีดโบ๊ทข้ามฟากไปยังที่พักของเราที่เกาะเสม็ดทันที แบบไม่ปล่อยให้เราต้องรอนานสวรรค์บนดิน
เมื่อมาถึงพาราดีก็อดตื่นตะลึงกับความสวยงามไม่ได้ แม้ว่าเราจะพอเห็นรูปทางเว็บไซต์ตอนที่จองห้องพักมาบ้างแล้วก็ตาม แต่เมื่อได้มาสัมผัสกับสถานที่จริงแล้วทำให้เรารู้ทันที่ว่ารูปพวกนั้นไม่สามารถเก็บ หรือถ่ายทอดความงามได้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ดอกไม้ ทางเดิน อาคาร ห้องพักต่างๆ สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร ล้วนแล้วแต่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาได้สวยงามลงต้ว ร่มรื่น แถมยังเปิดรับลมทะเลแบบเต็มๆสมกับชื่อ"พาราดี"หรือ"สวรรค์ชั้นหก"จริงๆ หลังจากดื่มดํ่ากับบรรยากาศแบบพอหอมปากหอมคอ เราก็ตรงไปเช็คอินทันที่ และเมื่อมาถึงห้องพักก็ต้องทึ่งอีกครั้ง เพราะที่นี่สมกับเป็นรีสอร์ท ระดับห้าดาวอย่างแท้จริง ในห้องนั้นมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันทั้งทีวี LCDขนาด 21นิ้ว เครื่องเล่นซีดีและดีวีดี เครื่องทำกาแฟ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ แต่ที่ถูกใจสุดๆ คงจะหนีไม่พ้นสระว่ายนั้าขนาดกะทัดรัดและจากุชชี่ที่อยู่ด้านนอกของห้องนั่นเอง สำหรับใครที่กระเป๋าตังค์หนาหน่อยที่นี่เขายังมีห้องสูทสุดหรูชื่อ Paradee Suite Villa ไว้ให้เลือกพักด้วย ซึ่งห้องสูทนี้ตั้งอยู่สุดหาดทางเหนือ ซึ่งภายในห้องจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรากว่าห้องธรรมดา มีทั้งค็อกเทลบาร์ และพ่อบ้านส่วนตัวแถมวิวนอกห้องยังสวยแบบเหนือคำบรรยายอีกด้วย
สะดวกสบายและเพลิดเพลินกับบริการมากม
เสร็จจากการชื่นชมห้องพัก เราก็ไม่รอช้า ขอเดินสำรวจ "สวรรค์บนดิน" กันสักหน่อย และเราก็ไม่ผิดหวังเพราะที่นี่มีสิ่งอำนวยความสุข และบริการดีๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร The Restaurant ที่บริการอาหารไทย และอาหารนานาชาติรสเลิศตั้งแต่เช้าจรดเย็น,ร้านนั่งดื่ม ชิลล์ๆ เคล้าบรรยากาศสวยๆ และลมทะเลอย่าง Pool Barและ Sunset Bar,สระว่ายนํ้าขนาดใหญ่,ฟิตเนส,สปา รวมไปถึงห้องสมุดที่มีบริการอินเตอร์เน็ตฟรีด้วยส่วนใครที่อยากจะเล่นน้ำทะเล หรือนอนอาบแดด ที่พาราดีก็มีหาดถึง 2 หาดให้ได้เลือกผ่อนคลาย ได้แก่ หาดที่มีทรายขาวๆ และน้ำทะเล
อุ่นๆ เหมาะสำหรับการว่ายน้ำเล่น กับอีกหาดที่มีหินระเกะระกะ เหมาะกับการดูพระอาทิตย์ตกและดำดูความงามและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
กิจกรรมที่พวกเราเลือกทำเป็นอันดับแรกก็คือ เล่นนํ้าทะเล โดยพวกเราแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งตรงดิ่งวิ่งลงหาดไปเล่นน้ำทะเล ส่วนอีกกลุ่มขอเล่นน้ำที่สระว่ายนํ้าขนาดใหญ่ ซึ่งพวกเราก็ผลัดเปลี่ยน หมุนเวียนเล่นทั้งน้ำสระและนํ้าทะเลอย่างเท่าเทียม เดินขึ้นเดินลง ส่งเสียงดังจนกลัวว่าแขกฝรั่งจะว่าเอา (แต่เราก็ยังไม่ลดเสืยงอยู่ดี)
ไม่รู้ด้วยความที่กลัวจะดำจากแสงแดดที่ ร้อนแรงหรือเปล่าที่ทำให้เพื่อนๆ ผู้หญิงชักชวนกันถอยทัพจากริมหาดและริมสระไปนวดตัวกันที่สปา ซึ่งเสียดายที่เราไม่ได้แวะไปใช้บริการเลย เพราะพวกสาวๆ เอ่ยปากชมกันไม่หยุดว่าสบายตัวมากๆ แถมในสปาก็ตกแต่งสวยงาม แบ่งห้องเป็นดิน นํ้า ลม ไฟ กันเลยทีเดียว
ตกคํ่าท้องก็เริ่มร้องอุทธรณ์ด้วยความที่โหมใช้แรงไปกับการเล่นนํ้าเสียเยอะ ไม่เว้นแม้แต่สาวๆ ที่ไปนอนนวดตัวสบายๆในสปามา พวกเราจึงรีบ กลับไปอาบนํ้าให้สบายตัวกันก่อน แล้วจึงรวมตัวเคลื่อนพลไปที่ The Restaurantห้องอาหารของทางรีสอร์ท ที่พอตกกลางคืนแล้วดูสวยงามจับตาด้วย แสงไฟ บรรยากาศโรแมนติคอย่าบอกใคร (เสียดายที่ไม่ได้มากับคนรู้ใจ)แถมอาหารหลากหลายชนิดก็อร่อยล้ำจนเกินบรรยาย
เติมพลังกับอาหารรสเลิศไปชุดใหญ่ พวกเราก็ติดต่อกับพนักงานสาวสวยที่ล็อบบี้ให้ช่วยเรียกรถออกไปข้างนอกให้ เมื่อรถมาแล้วเราก็รีบตรงไปดื่ม และคุยกันแบบไม่เมาไม่กลับที่หาดทับทิม จนหน้า ปัดนาฬิกาข้อมือบอกว่าเป็นเวลาตี 2กว่าๆ โน่น แหละ พวกเราถึงได้ฤกษ์โทรศัพท์ตามพี่คนขับให้มารับกลับไปที่พาราดี สวรรค์บนดินของเรา
สุขสันต์ในรีสอร์ทสุดหรู
เนื่องจากระดับแอลกอฮอล์ในเลือดยังคงหลงเหลืออยู่บ้าง พวกเราจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันสุดท้ายก่อนจะกลับกรุงเทพฯ
ในห้องสุดสบาย นอนบนเตียงนุ่มๆ รวมไปถึงใช้สระว่ายน้ำ และ จากุชชี่ช่วยบำบัดอาการ
มึนที่เกิดจากการเมาค้าง แถมบางคนยังก็มีการทิ้งทวนเฮโลกันลงเล่นน้ำทะเลกันสนุกสนาน
อีกรอบ ก่อนจะเก็บของใส่กระเป๋าอย่างไม่เต็มใจ เพื่อเช็คเอาท์ออกจาก รีสอร์ทหรู
ถึงแม้ว่ามาเสม็ดครั้งนี้จะไม่ "เสร็จ"แต่รับรองว่าครั้งหน้าต้องไม่พลาดแน่ๆ เพราะเรารู้
แล้วว่าสวรรค์บนดินมีอยู่จริงที่พาราดี แล้วจะมีเหตุผล กลใดที่นางฟ้าของเราจะไม่มีอยู่จริง
บนเกาะแห่งนี้ กันล่ะ...จริงไหม?
หมายเหตุ:ใครอยากมาสัมผัสสวรรค์ชนหกที่ พาราดี สามารถติดต่อจองห้องพักหรือสอบ
ถาม ข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่โทร. 038-644-283-8
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment